Parenting

แม่ต้องรู้ วิธีปกป้องลูกน้อยจากฝุ่น PM 2.5 อันตรายร้ายทำลายสุขภาพ

วิธีปกป้องลูกน้อยจากฝุ่น PM 2.5

สิ่งที่มาพร้อมกับลมหนาว คงหนีไม่พ้นสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ดูเหมือนว่าจะหนักหน่วงขึ้นทุกปี ซึ่งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกินระดับมาตรฐานติดต่อกันหลายวันนี้ มีผลเสียต่อสุขภาพโดยเฉพาะกลุ่มอ่อนไหว คือ เด็กเล็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะได้รับ อันตรายจากฝุ่น PM 2.5 มากกว่าผู้ใหญ่

หลายๆ สถาบันประเทศไทย ได้ออกมาเตือนคุณพ่อคุณแม่ให้งดการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินกว่าระดับมาตรฐาน เพราะการได้รับ อันตรายจากฝุ่น PM 2.5 จะส่งผลให้เด็ก ๆ ป่วยหนักและหายช้ากว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากระบบต้านทานมลพิษในเยื่อบุทางเดินหายใจ และระบบภูมิคุ้มกันร่างกายยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่

โดยอันตรายจากฝุ่น PM 2.5 ที่มีผลกระทบกับทารกและเด็กเล็ก คือ

●     มีอาการแสบจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก ไอ มีเสมหะ และเจ็บคอ เนื่องจากการสูดเอาฝุ่นละอองและควันพิษเข้าสู่ร่างกาย

●     มีอาการระคายเคืองผิวหนัง เกิดเป็นผื่นคันบริเวณที่สัมผัสฝุ่น

●     หากมีการสะสมฝุ่นพิษในระยะยาว จะส่งผลให้มีความผิดปกติด้านสติปัญญาและพัฒนาการ ทำให้ลูกมีพัฒนาการช้าลง มีปัญหาด้านการพูดและฟัง มีภาวะสมาธิสั้น และมีภาวะออทิซึม

●     การสูดฝุ่นพิษเป็นเวลานาน มีผลกระทบระยะยาวกับปอด อันเป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบ หอบหืด และโรคมะเร็งระบบทางเดินหายใจ

●     ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กมากจนสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือด และกระจายไปทั่วร่างกาย อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ และภาวะหลอดเลือดหดตัวได้

จากผลกระทบต่อสุขภาพของกลุ่มอ่อนไหวข้างต้นนี้ ทำให้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแนะนำวิธีปกป้องลูกรักจากฝุ่นร้าย และแนวทางหลีกเลี่ยงอันตรายจากฝุ่น PM 2.5 ไว้ดังนี้

1.    หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน และไม่เข้าไปในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินกว่าระดับมาตรฐาน

2.    ขณะอยู่ในบ้านควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิท และเปิดเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองแบบ HEPA ซึ่งช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ลงได้

3.    หากจำเป็นต้องออกจากบ้านในวันที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ต้องสวมหน้ากากชนิด N95 (สำหรับเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ส่วนทารกหรือเด็กเล็กไม่แนะนำให้เดินทางออกนอกบ้าน)

4.    ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ จะช่วยให้หายใจได้โล่งขึ้น

5.    สำหรับเด็กอายุ  6 เดือนขึ้นไป ควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

6.    ควรเช็ดทำความสะอาดบ้านและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ เป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กภายในบ้าน

7.    การปลูกต้นไม้ใหญ้ไว้รอบบ้าน และวางกระถางต้นไม้ฟอกอากาศ เช่น ลิ้นมังกร กวักมรกต เฟิร์น ว่านหางจระเข้ ไว้ภายในบ้าน ก็สามารถช่วยกรองสารพิษ-ฝุ่นละอองขนาดเล็กเอาไว้ และฟอกอากาศให้สดชื่นได้

8.    หากพบว่าลูกมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือมีผื่นคันขึ้นตามร่างกาย ให้รีบพาไปพบคุณหมอทันที

ถึงแม้ว่าฝุ่นจะหนาสักเท่าไหร่ แต่การพัฒนาทักษะให้เจ้าตัวน้อยก็เป็นสิ่งที่รอไม่ได้ แต่ถ้าหากใครยังกังวลว่าการพัฒนาของลูกน้อยจะหยุดชะงัก ก็ยังสามารถพัฒนาทักษาะภาษาอังกฤษกับ 51Talk ที่บ้านก็ได้ เพราะเป็นแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์100% เรียนที่ไหนก็ได้ พร้อมหลักสูตรที่อ้างอิงมาตรฐานจาก CEFR พร้อมครูผู้สอนชาวต่างชาติ ที่ได้รับการอบรมจิตวิทยาเด็กกว่า 100 ชั่วโมง ทำให้มั่นใจว่าทักษะของลูกๆ จะไม่หยุดพัฒนาแม้ฝุ่นจะหนาแค่ไหนก็ตาม ทดลองเรียนฟรี คลิกเลย