How to ฝึกลูกให้เป็นเด็ก2ภาษา กับเรื่องที่ต้องเข้าใจ

How to ฝึกลูกให้เป็นเด็ก2ภาษา
ทำไมต้อง How to ฝึกลูกให้เป็นเด็ก2มาดูเพราะภาษาที่สอง ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นข้อได้เปรียบในเรื่องของโอกาสทางการศึกษาและการทำงานมากกว่าผู้ที่สื่อสารได้ภาษาเดียวแน่นอน ซึ่งอาจต้องฝึกให้ถูกวิธีกันตั้งแต่เด็ก สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่อยาก ฝึกให้ลูกพูด 2 ภาษา แบบ Bilingual อาจจะลองหยิบวิธีที่เรานำมาฝากไปปรับใช้ เพื่อให้ลูกน้อยเป็น “เด็ก 2 ภาษา” อย่างมีคุณภาพกัน
เข้าใจเรื่องพัฒนาการด้านภาษาของลูก
ก่อนอื่นมาต้องเข้าใจกับเรื่องของพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็กกันเสียก่อน พัฒนาการและการเริ่มซึมซับภาษานั้นเริ่มต้นตั้งแต่วัยทารก หากคนรอบข้างพูดด้วยภาษาอะไร เด็กก็จะสามารถจับสำเนียงเสียงของภาษานั้นๆ ได้ดีขึ้นเมื่อเติบโตตามวัย
บางคนเคยได้ยินความเชื่อที่ว่าเมื่อเด็กได้ฟังหลายภาษารอบตัวอาจจะทำให้เริ่มพูดได้ช้าลง ซึ่งนับเป็นความเชื่อที่ไม่เป็นความจริง การจะพูดได้ช้าหรือเร็วนั้นขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคน บางคนพูดได้เร็ว บางคนอาจจะเริ่มพูดได้ช้าไปบ้าง พ่อแม่ควรใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ กระตุ้นให้ลูกพูดแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งจะพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษกับลูกก็ได้ ไม่เกี่ยวว่าจะทำให้ลูกพูดได้ช้าแต่อย่างใด
1) กำหนดว่าใครจะพูดภาษาอะไรกับลูก
ไม่ว่าคนในบ้านคุณจะมีพื้นฐานภาษาต่างกัน เช่น พ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นคนไทย และอีกฝั่งเป็นชาวต่างชาติ เป็นต้น หรือใช้ภาษาเดียวกันก็ตาม หากต้องการฝึกให้ลูกพูด 2 ภาษา ก็จำเป็นที่อาจจะต้องกำหนดว่า ใครจะเป็นคนพูดภาษาอะไรกับลูกบ้าง แต่หากปกติมีพื้นฐานภาษาไทยภาษาเดียวหรือเป็นภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษ อาจจะต้องกำหนดให้เวลาคุยแบบพร้อมหน้าต้องพูดภาษาอังกฤษกับลูก เพื่อเป็นการฝึกลูกพูดภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาที่ 2 ได้ง่ายขึ้นจากคนใกล้ชิด เช่นนี้เป็นต้น
2) เตรียมสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้พร้อม
หลังจากวางแผนเรื่องให้คนมาพูดภาษาอังกฤษกับลูกแล้ว การจัดเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อปรับสภาพแวดล้อมให้ตอบโจทย์สู่การเป็นเด็กสองภาษา ก็สำคัญไม่แพ้กัน อาจเริ่มจากการปรับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น
– หาเพลง หนังสือ หรือการ์ตูนสำหรับเด็กสองภาษา ที่มีเนื้อหาเหมาะกับช่วงวัยของลูกมาไว้ในบ้าน
– ทำป้ายคำศัพท์ชื่อเรียกสิ่งต่างๆ แล้วแปะไว้ที่สิ่งของนั้นๆ
3) วางแผนพัฒนาการฝึกลูกพูดภาษาอังกฤษอยู่เสมอ
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้การเรียนในโรงเรียนแบบ Bilingual สามารถพัฒนาความสามารถไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะครูเก่งเพียงอย่างเดียว แต่เพราะมีการวางแผนพัฒนาการสอนภาษาอังกฤษเด็กเล็ก ให้มีความเหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยอยู่เสมอ ทำให้เด็กมีพัฒนาการเรื่องการเรียนรู้ทางภาษาได้ดีมากขึ้น
ดังนั้น การจะฝึกลูกพูดภาษาอังกฤษ อย่าสอนแบบไร้ทิศทาง แต่ควรวางแผนที่จะพัฒนาปรับระดับให้เหมาะกับการเรียนรู้ในแต่ละช่วงวัยอยู่เสมอ เพราะบางวิธีก็ไม่เหมาะกับเด็กเล็ก เช่น เปิดทีวีช่องที่บรรยายภาษาอังกฤษให้เด็กชมไปเรื่อยๆ เด็กก็จะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาสื่อสารอยู่ดี เป็นต้น การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพนั้นควรเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้ภาษาสนทนาได้โต้ตอบจริงกับคนรอบตัว การเรียนรู้ในลักษณะนี้จึงจะมีพัฒนาการที่รวดเร็วมากกว่า
4) อย่าให้ลูกเรียนแค่ในห้องเรียนหรือหนังสืออย่างเดียว
วิธีฝึกลูกพูด 2 ภาษาโดยการเรียนภาษาจากแค่ในห้องเรียนอย่างเดียว นอกจากจะทำให้เบื่อง่ายแล้ว ยังเป็นการจำกัดขีดความสามารถในการพัฒนาของลูกอีกด้วย ดังนั้น หากเป็นไปได้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองควรพาลูกออกไปเจอสถานการณ์จริงบ้าง เช่น อาจจะเป็นการเข้าค่าย ฺBootcamp หรือเป็น Playgroup ที่มีเด็กชาวต่างชาติอยู่ และมีคุณครูชาวต่างชาติ หรือครูพี่เลี้ยงคอยดูแล การที่ลูกสามารถเล่นสนุกไปกับการใช้ภาษา จะทำให้ลูกเกิดความรู้สึกคุ้นชิน และกระตุ้นให้ลูกอยากที่จะใช้ภาษาอังกฤษ มากขึ้น
5) อย่ารีบร้อนและเร่งลูกมากเกินไป
แม้ว่าเด็กเล็กจะเหมาะกับการเริ่มฝึกฝนให้เป็นเด็ก 2 ภาษาได้ไว แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า เด็กยังคงเป็นเด็ก ซึ่งเด็กทุกคนต่างต้องการเสริมสร้างพัฒนาการด้านอื่นๆ และช่วงเวลาพักผ่อนที่เหมาะสมไม่แพ้กัน ดังนั้น อย่าลืมบริหารจัดการให้ชีวิตของลูกน้อยมีสมดุลในทุกด้าน และไม่ควรกดดันเด็กจนเกินไป พ่อแม่ควรมีความคาดหวังที่อยู่กับความเป็นจริง และไม่เอาลูกไปเปรียบเทียบกับลูกของคนอื่นเด็ดขาด ให้หมั่นสังเกตและโฟกัสที่ลูกว่าอะไรที่ทำให้ลูกชอบเรียนรู้ภาษา และอะไรที่กระตุ้นพัฒนาการด้านนี้ของลูกได้ดี แล้วคอยสนับสนุนอยู่ข้างๆ เพื่อให้พัฒนาจนก้าวสู่การเป็นเด็ก 2 ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6) ทางเลือกสำหรับบ้านที่ไม่เก่งภาษา
EF Education First องค์กรนานาชาติที่เกี่ยวกับการฝึกอบรมภาษา เปิดเผยผลการจัดอันดับความสามารถทางภาษา พบว่า ไทยอยู่ในอันดับ 89 ของโลก ถือว่าทักษะทางภาษาอังกฤษโดยรวมของคนในประเทศของเรานั้นอยู่ในระดับต่ำมาก จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมคนไทยส่วนใหญ่ที่มีความคิดอยากเลี้ยงลูกภาษาอังกฤษ แบบ Bilingual ทำให้สำเร็จจริงค่อนข้างยาก
เราจึงขอเสนอทางเลือกสำหรับบ้านที่ไม่มีใครเก่งภาษา ด้วยการลงทุนซื้อคอร์สเรียนภาษาอังกฤษโดยครูต่างชาติแบบออนไลน์ เพื่อให้ลูกพูดภาษาอังกฤษกับคุณครูให้ชิน ถ้าจะให้ดีทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะเข้าเรียนเสริมทักษะไปด้วยก็ไม่เสียหาย แม้อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเรียน แต่ก็ถือว่าค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียนั้นยังนับว่าน้อยกว่าการส่งลูกเข้าโรงเรียนนานาชาติที่มีค่าใช้จ่ายเยอะมาก เพื่อแลกกับการให้ลูกได้รับการสอนภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องตามหลักสูตร
คุณพ่อคุณแม่อาจหาทางเลือกการเรียนภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติ ที่สะดวก เรียนที่บ้านได้ และหลักสูตรที่มีมาตรฐานอย่าง 51Talk ที่สามารถทดลองเรียนฟรีก่อนได้ พร้อมรีวิวยืนยันใน social media ว่าดีจริง การันตีหลักสูตรที่อ้างอิงมาตรฐานจาก CEFR แถมครูผู้สอนยีงมีใบรับรอง TESOL และอบจิตวิทยาเด็กกว่า 100 ชั่วโมง รับรองไม่มีเบื่อแน่นอน

