5 วิธีเลี้ยงเด็กยุคอัลฟ่าเจนอย่างมีประสิทธิภาพ

5 วิธีเลี้ยงเด็กยุคอัลฟ่าเจน
หลายคนคงคุ้นเคยกับคำศัพท์ที่ใช้เรียกเด็กที่เกิดและเติบโตมาในแต่ละยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็น baby bloomer ที่ปัจจุบันก็เข้าสู่วัยคุณตา คุณยายกันแล้ว Gen x ซึ่งก็เข้าสู่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ Gen y คือคนวัยทำงาน และ Gen z คือคนที่เป็นวัยรุ่น จนถึงเด็กจบใหม่ ซึ่งคนที่เติบโตมาในแต่ละยุคย่อมมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป
แต่ในบทความนี้ จะไม่มีได้พูดถึงเจนที่ว่ามาเลยค่ะ แต่จะขอพูดถึง Generation ใหม่ล่าสุดที่จะเป็นอนาคตของโลกใหม่เลยทีเดียว นั้นก็คือ Alpha Generation ซึ่งก็คือรุ่นลูก รุ่นหลานไปเลย และในบทความนี้ จะขอนำเสนอวิธีเลี้ยงเด็ก Alpha Generation ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของเด็กๆกันค่ะ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Alpha Generation หรือว่า "อัลฟ่าเจน" กันก่อน เด็กอัลฟ่าเจน ก็คือเด็กที่เกิดในปี ค.ศ. 2010 – 2024 หรือพ.ศ. 2553 – 2567 นั่นเอง ลักษณะเด่นของอัลฟ่าเจนคือ ชีวิตค่อนข้างสบาย เพราะพ่อแม่ คือ Gen y มีความรู้ มีงาน มีเงิน มีลูกเมื่อพร้อม พูดง่ายๆ คือเป็น Gen ที่ พร้อมสำหรับการเลี้ยงดูลูกน้อยแล้ว เด็กๆรุ่นนี้มีข้อได้เปรียบกว่าคนรุ่นก่อนๆตรงที่ชีวิตอาจไม่ต้องดิ้นรนมาก ครอบครัวมีฐานะร้อมอยู่แล้ว มีเทคโนโลยี การแพทย์ที่พัฒนา การศึกษาที่ทันสมัย สามารถปรับตัวได้เร็ว เพราะโลกของเค้าเปลี่ยนเร็วมาก แต่ข้อเสียก็คือ มีแนวโน้มเป็นคนวัตถุนิยม เบื่อง่ายและความอดทนต่ำ นิยมความรวดเร็วทันใจ จึงมักมองหาสูตรความสำเร็จที่จะทำให้ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย
ดังนั้น ความท้าทายของพ่อแม่ Gen y ในการดูแลลูกอัลฟ่าเจน ก็คือ การที่เราต้องตามเทคโนโลยีให้ทัน เพราะเทคโนโลยีในตอนนี้เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของชีวิตลูก นอกจากนี้พ่อแม่ต้องมีทัศนคติที่เปิดกว้าง เพราะลูกๆ จะเปลี่ยนตัวเองให้ทันโลกไวมาก และยังมีเรื่องของวัฒนธรรมย่อยที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการไม่มีขอบเขตของเชื้อชาติ การไม่นับถือศาสนา การผสานข้ามวัฒนธรรม (Fusion Culture) และอีกมากมายที่สามารถทำให้พ่อแม่ รวมถึงปู่ย่า Gen x หรือ Baby boomer ช็อกได้ ซึ่งพ่อแม่ก็ต้องมีหน้าที่ลดช่องว่างระหว่างวัยในครอบครัวเพื่อสานสัมพันธ์ในบ้านด้วย
นอกจากนี้แล้ว เด็กรุ่นอัลฟ่าเจน ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมาธิสั้น (Attention-deficit/hyperactivity disorder (ADHD)) โรคออทิสติกเทียม และโรคต่อต้านสังคม (Antisocial) ซึ่งทั้งหมดนี้โทษเด็กก็ไม่ได้ เพราะสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่พึ่งพาเทคโนโลยีเป็นหลักนั่นเอง ดังนั้น บทความนี้ จะเสนอแนวทาง ที่จะเลี้ยงลูกอัลฟ่าเจนให้มีประสิทธิภาพ
1. เป็นนักคิดสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มศักยภาพใหม่ๆ ให้กับลูก
ฝึกให้เด็กคิดและวิเคราะห์โดยเริ่มจากการชวนกันตั้งคำถาม ข้อสังเกต ให้เด็กรู้จักวิธีแก้ปัญหา ได้ฝึกคิดอย่างมีวิจารณญาณไตร่ตรอง ฝึกให้ลูกคิดว่าเรื่องที่ได้ฟัง ได้เห็น ได้รู้นั้นเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ สมควรเชื่อถือหรือไม่
2. เพิ่มเติมความรู้ในโลกความเป็นจริงแทนความเพ้อฝัน
สนับสนุนให้ลูกคิดในสิ่งที่เป็นไปได้ ทำได้โดยพ่อแม่ต้องสื่อสารกับลูกด้วยเหตุผล ฝึกลูกให้คิดเป็น เพื่อให้เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย รู้จักคิด ตัดสินใจ วางแผน และแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง รู้เท่าทันคน
3. ส่งเสริมสภาพอารมณ์ สังคม จิตสำนึก คุณธรรม จริยธรรม
สิ่งสำคัญพ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ใช้วิธีการสอนด้วยความรักและสัมพันธภาพที่ดี จะทำให้เด็กค่อยๆ ซึมซับเอาแบบอย่างที่ดีนั้นมาปฏิบัติตามจนเกิดเป็นนิสัย
4. พ่อแม่ต้องเป็นผู้ฟังที่ดีด้วยการเปิดใจรับฟังลูก
โดยพ่อแม่สามารถสังเกตทัศนคติ มุมมอง ความคิดของลูกได้ และใช้วิธีการพูดคุย แลกเปลี่ยน สั่งสอน ปลูกฝังสิ่งที่ดีต่างๆ เพื่อเขาจะได้เกิดวิธีคิดที่ดีและถูกต้อง
5. การเลือกรับสื่อให้เด็กอย่างสร้างสรรค์
พ่อแม่ควรใช้สื่อให้สร้างสรรค์ คิดให้เท่าทันสื่อ ให้คำแนะนำในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็ก และร่วมกันหาทางรับมือกับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามา
การเลี้ยงเด็กนั้น ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน ต่อให้มีเครื่องอำนวยความสะดวก หรือองค์ความรู้มากมายเพียงใด ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายอยู่ดี และสำหรับการเลี้ยงดูเด็กอัลฟ่าเจนด้วยแล้ว ยิ่งยากและท้าทายเข้าไปอีก ผู้เขียนจึงหวังว่า 5 แนวทางการเลี้ยงดูเด็กๆอัลฟ่าเจนที่ได้นำเสนอไปข้างต้นนั้น จะสามารถช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่ สามารถดูแลน้องๆ ได้อย่างเหมาะสมกับเด็กๆ นะคะ และถ้าจะให้ดี ต้องมีทักษะการสื่อสารที่ดี โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพื่อให้เข้ากับพฤติกรรมของเด็กอัลฟ่าเจนที่ทันเทคโนโลยี สามารถให้ลูกๆ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ กับครูต่างชาติ ซึ่งที่ 51Talk ตอบโจทย์มากๆ เพราะครูมีมาตรฐาน TESOL และจิตวิทยาเด็ก ทำให้เด็กตั้งใจเรียนได้
สามารถทดลองเรียนฟรีได้โดยคลิกที่นี่ได้เลย

