Children development

3 เทคนิคลัด ฝึกฟังภาษาอังกฤษ ให้ได้ผลอย่างรวดเร็ว

3 เทคนิคลัด ฝึกฟังภาษาอังกฤษ

3 เทคนิคลัด ฝึกฟังภาษาอังกฤษ หลายคนคงเคยเจอปัญหาแบบนี้ ที่เวลาดูหนัง หรือซีรี่ย์ภาษาอังกฤษ ต้องย้อนกลับไปหลายรอบมาก แต่ก็ยังฟังไม่ออกว่าเขาพูดว่าอะไร..

นี่ภาษาเทพหรือเปล่า? ทำไมเรียนมาตั้งหลายปีก็ยังฟังไม่ออก

วันนี้ 51Talk จึงขอเสนอ!!

3 เทคนิคลัด ฝึกฟังภาษาอังกฤษ ให้ได้ผลสักที !

1.English immersion

เปรียบเสมือนการที่เรา เอาตัวเองจุ่ม หรือรายล้อมไปด้วย English speaking sounds หรือเสียงภาษาอังกฤษค่ะ ทำให้รอบตัวเป็นสิ่งแวดล้อมที่มีแต่ภาษาอังกฤษ

แต่ถ้าใครยังกังวลว่า เปิดทิ้งไว้ไม่เข้าใจ จะได้ผลหรอ?

จริงๆ แล้ว ถึงจะไม่เข้าใจทั้ง 100% แต่ก็มีผลกับการเรียนรู้และจดจำของสมองได้นะคะ

ทุกคนเคยไหม? เวลาที่ไปเดินห้างหรือไปที่ไหนแล้วได้ยินเพลงอะไรบ่อย ๆ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ฟัง ไม่ได้รู้จักเพลงนี้เลย อยู่ดี ๆ มันติดในหัวเฉยเลย เป็นอาการที่เรียกว่า Earworm

เพราะฉะนั้นการเปิดสื่อภาษาอังกฤษให้ได้ยินบ่อย ๆ จะเปิดพร้อมกับทำอย่างอื่นไปด้วยก็ได้นะคะ

ไม่ว่าจะขับรถ ล้างจาน แต่งหน้า ทำกับข้าว เปิดไปเลย เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ให้เปิดกรอกหูไปเลย

อย่างน้อยเราก็ได้ซึบซับ คุ้นเคยกับเสียงในภาษานั้น และมันจะมีประโยชน์สำหรับการออกเสียงของเราในภายหลังด้วยค่ะ

2.Trigger Keywords

ในขณะที่เราฝึกฟัง ให้เราจดสิ่งที่เราได้ยิน แค่เดา ไม่จำเป็นต้องถูกก็ได้นะคะ โดยจับเป็นคีย์เวิร์ดที่เราฟังออก มาเรียบเรียง และเดาบริบท

เช่น ดูหนัง หรือฟังเพลง แล้วลองทายว่า คือคำว่าอะไร ก่อนที่จะดูเฉลยจาก subtitle หรือจากเนื้อเพลงภาษาอังกฤษ

ยังไม่หมดแค่นั้น !! พอฝึกสักพักแล้ว ลองให้ตัวเองได้ฝึกจำจากการฟังออกมาเป็น Phase (วลี) &  Sentence (ประโยค)

แทนที่เราจะจำคำศัพท์เป็นคำ ๆ ให้เราพัฒนามาเป็นจำเป็นวลี เป็รประโยค หรือจำมาทั้งบริบทได้เลยยิ่งดีค่ะ

ตัวอย่างเช่น: I’m with you ‘til the end of the line” – Bucky (ประโยคจากหนังเรื่อง Captain America)

ถ้าเราเพิ่งรู้จักคำนี้จากภาพยนตร์  แทนที่จำแค่ “end”  แปลว่า “จบ”

ให้ยกมาทั้งเลย I'm… you …end of ...line

เวลาเอาไปใช้ก็ไปปรับนิดปรับหน่อย

เช่น It's might be the end of this thing.

(นี่น่าจะเป็นจุดจบของเรื่องนี้…) เป็นต้น

เพื่อที่ว่าเวลาที่เราเอามาใช้ เราจะได้ยกมาทั้งก้อนเลย มาใช้ในสถานการณ์ที่คล้ายกัน

ถ้าจำเป็นคำ ๆ แยกกัน เราต้องมานั่งหยิบคำศัพท์ มายำรวมกันทุกครั้งที่จะใช้

ก็พูดได้ไม่ทันใจสักที วิธีที่จะทำให้เราพูด และใช้ภาษาได้ง่ายและเร็วที่สุดคือตรงนี้เลยค่ะ ได้ยิน แล้ว เอามาใช้ copy & paste

3. Copy&Repeat เลียนแบบและทำซ้ำๆ

เมื่อเราได้ยินอะไร เราก็จำและใช้บ่อยๆ ให้ชินให้ติดปาก

ลองเปิดหนังที่เราชอบ เปิดซ้ำๆ แล้วพูดคำ หรือวลีเดิมเรื่อย ๆ

ดูง่ายๆ แต่เป็นวิธีที่ได้ผลจริงๆ แถมมีงานวิจัยมากมายที่รองรับด้วย

เสียงนั้น จะถูกจดจำอยู่ในหัว ทำให้เลียนเสียง เลียนแบบการ stress (การเน้นพยางค์) ท่าทางการสื่อสาร อารมณ์ได้ง่ายกว่า

เพราะภาษาคือการสื่อสาร ไม่ใช่แค่การท่องศัพท์ หรือแค่จำแกรมม่า

การที่เราฝึกด้วยวิธีแบบนี้ เราจะได้ฝึกทั้ง pronunciation (การออกเสียง), listening (การฝึกฟัง) และ speaking (การฝึกพูด) เลยค่า

ทั้ง 4 ทักษะภาษามันเชื่อมโยงกันหมด ทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน นอกจากฝึกฟังแล้ว ที่สำคัญมาก ๆ

คือการที่เราเอาสิ่งที่เรารับเข้าไปในหัว (input) ออกมาใช้ (output)

เพื่อให้เราจดจำข้อมูลนั้น ไม่งั้นเราจะต้องบอกลาชุดคำศัพท์ และทุกอย่างที่เราได้เรียนไป

นอกจากนั้น ถ้าไม่รู้ว่าจะหาสภาพแวดล้อมให้ Immersion ที่ไหน ไม่รู้จะ Speak English กับใคร แนะนำให้มาเรียนที่ 51Talk เพราะหลักสูตรเราจำลองสภาพแวดล้อมระหว่างเรียนเป็นภาษาอังกฤษ แถมเรียนกับครูต่างชาติ ที่จะ Speak English กับคุณตลอดคลาส สามารถทดลองเรียนฟรี พร้อมวัดระดับภาษาได้แล้ววันนี้

พัฒนาภาษาอังกฤษรอไม่ได้ ถ้าอยากเป็น Global citizen ต้องฝึกแล้ว!