ข่าว

รู้จัก Generation BETA เด็กยุคใหม่ล่าสุด 2025

รู้จัก Generation BETA

รู้จัก Generation BETA ผู้ที่เกิดตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป

สำหรับแอดมินที่เป็น Gen Y ผู้เติบโตมากับโลกออฟไลน์ การฟังเทป ทีวีที่ไม่ได้ออนแอร์ตลอด 24 ชม. โลกกึ่งอินเตอร์เน็ต และอุปกรณ์อนาล็อกต่างๆ มากมาย

นับจากนี้เป็นต้นไป เด็กที่เกิดขึ้นมาก้าวเข้าสู่ Generation BETA อย่างเป็นทางการ และพ่อแม่ของเด็กเจนนี้ก็คือ คนเจน Y ตอนปลาย และเจน Z และอนาคตอีกไม่นานพ่อแม่ก็จะขยับไปเป็น เจน Alpha ผู้ที่เติบโตมาพร้อมกับอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย แล้วเด็กเจน BETA ต่างจากเจน Alpha อย่างไร …

เด็กเจน Alpha เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยี ไอแพด โซเชียลมีเดีย คุ้นชินกับการที่พ่อแม่ถ่ายภาพปุ๊บ อัพลง IG ปั๊บ รับรู้ข่าวสารอย่างรวดเร็ว ทั่วโลก พวกเขามีทักษะเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ว่าสอนให้ใช้อย่างดีแค่ไหน รับมือกับข้อมูลมากมายเหล่านี้แค่ไหน เด็กเจนแอลฟ่าที่เก่งกาจ ครบจบในคนเดียว multitasking ทำได้หลายอย่างในคนเดียวกัน … แต่ในขณะเดียวกัน หากบริหารจัดการเลี้ยงไม่ดี เด็กแอลฟ่าก็พร้อมที่จะถูกชักจูงเข้าสู่ด้านมืดได้ง่าย หยิบโหย่ง รักสบายขั้นสุด ท้อง่าย ยอมแพ้ง่าย เพราะมีอะไรอย่างอื่นให้ทำมากมาย

เด็กเจน Beta ต่างกัน เพราะพวกเขาเติบโตมาพร้อมกับ AI และระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ที่พัฒนามาอย่างเสถียรแล้วในทุกอย่างรอบตัว มากกว่ารุ่นก่อน ๆ ทำงานได้ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ …. ในขณะเดียวกัน เด็กรุ่นนี้จะได้รับผลกระทบ จากคนเจนก่อนอย่างชัดเจนที่สุด เช่น ภาวะโลกร้อน มลภาวะที่สูงงง ระบบเศรษฐกิจที่พังพินาศ ตลาดแรงงานที่ระบบอัตโนมัติต่าง ๆ มาทดแทนแรงงานมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ระบบการศึกษาที่หลายประเทศยังไม่ปรับตัว การกระจายออกของสังคมเมือง ชนบทอาจจะไม่มีอีกต่อไปแล้วก็ได้ในอนาคต … เขาต้องรับมือกับสิ่งเหล่านี้ในอนาคต …

การปรับตัวให้ได้เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเด็กเจน BETA เพราะโลกจะผันผวน สิ่งแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงอีก สังคมผู้สูงวัยจะกระทบทั้งโลก (เด็กกลุ่มนี้จะได้รับผลของการเปลี่ยนฐานประชากรชัดเจน) และความยั่งยืนจะไม่ใช่เรื่องที่พูดกันเล่น ๆ อีกต่อไปในอีก 10-20 ปีจากนี้ เพราะผลกระทบจะมาหลังจากนี้แหละ ชัดขึ้นเรื่อย ๆ เจนก่อน ๆ จะจากลาโลกไป เจนนี้จะอยู่รับผลของมัน

ข้อดีข้อหนึ่งก็คือ พ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็น Gen Z และ so on รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แล้วโดยเฉพาะผลเสียของหน้าจอต่อสมองของเด็กเล็ก พ่อแม่จำกัดเวลาดูหน้าจอของเด็กมากขึ้น อ่านนิทานให้ลูกฟังมากขึ้น ใช้เงินในเรื่องการศึกษากับลูกมากขึ้น ทุ่มเทเวลาในการเล่นกับลูกและเลี้ยงลูกมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องดี ต้องยอมรับว่า พ่อแม่ Aware เรื่องนี้มากขึ้น รวมถึงการรับมือกับข้อมูลที่ฉ้อฉล บิดเบือนทางอินเตอร์เน็ตได้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ทั้งหมดหรอก ยังมีคนถูกหลอกจากคอลเซ็นเตอร์ ยังมีคนถูกหลอกจากเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัว (เอาง่าย ๆ เรื่องนมแม่นี่โดนปั่นหัวกันเยอะ นมตัน นมหด จากอาหารที่แม่กินนี่คนก็ยังเชื่อกัน เชื่อแบบเชื่อ เชื้อเชื่ออ่ะนะ) … ดังนั้น ถ้าพ่อแม่ยังมีตรรกะที่พัง บางทีเจนเบต้าอาจจะพังไปด้วยก็ได้

ทักษะที่สำคัญสำหรับเจน BETA ก็คือ การสร้างความปลอดภัยในโลกดิจิตอลสำหรับตัวเขา มีตรรกะที่ดีในการรับข้อมูล และคำแนะนำจาก AI แน่นอนว่า ความยืดหยุ่นทางสมอง ความคิดสร้างสรรค์ และการเป็นคนที่ใฝ่รู้ สู้งานตลอดชีวิตยังคงเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับคนเจนนี้เช่นกัน

ดังนั้นพ่อแม่ต้องปูพื้นฐานที่ดีเช่นที่ผ่านมา และเพิ่มเติมเรื่องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก (มิใช่แค่รอบตัว) ค้นหาตัวตนและทักษะใหม่ ๆ ในการอยู่รอดและรับมือกับโลกใบนี้ได้ ที่แน่ ๆ เขาจะอยู่กับผู้สูงอายุที่ปริมาณมากในโลกยุคอนาคต รับมือกับผู้สูงอายุนั้นอาจเป็นทักษะที่ไม่ง่ายเช่นกัน

ใดๆ ก็ตาม เมื่อเข้าสู่โลกอนาคต การสื่อสารจะง่ายขึ้นอย่างไร้พรมแดน ซึ่งภาษาหลักที่ใช้สื่อสารคงจะหนีไม่พ้นภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ปกครองที่มองอนาคต คงจะกังวลเรื่องการเสริมภาษาให้ลูกน้อยเจน Beta เป็น Future global citizen ต้องเสริมภาษาอังกฤษตั้งแต่ยังเด็กๆ สามารถเสริมภาษาอังกฤษกับ 51Talk ที่คิดหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัย Cambridge ที่ได้มาตรฐานระดับโลก พร้อมครูผู้สอนจากต่างชาติที่ได้ใบรับรอง TESOL และอบรมจิตวิทยาเด็ก ให้เตรียมตัวเป็น Future global citizen ได้อย่างมีคุณภาพ ทดลองเรียนฟรี คลิกเลย